วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553



ปลาวาฬเพชรฆาต

ปลาวาฬเพชรฆาต เป็นปลาที่อยู่ในตระกูลของโลมา ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด โดยมักจะถูกมนุษย์นำมาเลี้ยงไว้ในสวนน้ำ พร้อมกับฝึกฝนเพื่อใช้แสดง เนื่องจากความฉลาดแสนรู้ของมัน แม้ว่าชื่อของมัน จะฟังดูน่ากลัวแต่รับรองได้ว่า ไม่ทำอันตรายมนุษย์แน่นอน

ออร์ก้า (Orca) เป็นอีกชื่อหนึ่งที่ใช้เรียก ปลาวาฬเพชรฆาต (Killer whale) มันมีลักษณะเด่นที่ลวดลาย ซึ่งลำตัวด้านหลังของมัน จะเป็นสีดำ มีสีขาวที่ใต้ท้องและอก รวมทั้งรอบดวงตา ก็เป็นขีดสีขาวเช่นกัน นอกจากนี้ ทั้งครีบหลังของมัน ที่ตั้งฉากและสูงกว่าปลาวาฬอื่นๆ โดยเฉพาะตัวผู้ที่มีครีบหลังสูงถึง2 เมตร ซึ่งครีบหลังของตัวเมียจะไม่ค่อยตั้งฉาก แต่จะเอนไปทางด้านหลังมากกว่า ปลาวาฬเพชรฆาตตัวผู้ จะมีขนาดประมาณ 9.5 เมตร และประมาณ 6,500 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียจะมีขนาด 7-8 เมตร และหนักประมาณ 4,500 กิโลกรัม ส่วนใหญ่แล้ว สามารถพบปลาวาฬชนิดนี้ ได้ในมหาสมุทรทั่วโลก โดยเฉพาะแถบอุณหภูมิต่ำ อย่างขั้วโลกเหนือ รวมทั้งมหาสมุทรอาร์คติก และแอนตาร์กติกจะพบได้มาก เนื่องจากในน้ำแถบนั้น มีธาตุอาหารที่อุดสมบูรณ์ เหมาะแก่การอยู่อาศัยของสัตว์น้ำ จึงนับว่าเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของนักล่าอย่างปลาวาฬเพชรฆาต ซึ่งต้องการอาหารเป็นสัตว์เลือดอุ่นวันละ 60 กิโลกรัม โดยเหยื่อเหล่านั้นได้แก่ ปลา ปลาหมึก แมวน้ำ นกทะเล สิงโตทะเล เต่าทะเล ปลาโลมา เป็นต้น ปลาวาฬเพชรฆาตจะอยู่กันเป็นฝูงประมาณ 5-30 ตัว และหากินแบบแท็กทีม ทำให้มันสามารถล้มปลาวาฬสีน้ำเงิน ที่มีขนาดใหญ่ มหึมาและฉลามขาวได้ ด้วยการกัดที่หางของเหยื่อ เพื่อทำให้เหยื่อ ไม่สามารถว่ายน้ำหนีได้ รวมทั้งยังสามารถ เหวี่ยงเหยื่อที่มีน้ำหนักมากกว่า 300 กิโลกรัม ให้ลอยอยู่กลางอากาศได้ โดยเฉพาะการคว่ำแผ่นน้ำแข็ง เพื่อลากแมวน้ำลงมาเป็นอาหาร นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ "ปลาวาฬเพชรฆาต" โดยภายในกลุ่ม จะประกอบด้วยตัวผู้วัยฉกรรจ์เพียงหนึ่งตัว ตัวเมียวัยเจริญพันธ์มากกว่า 1 ตัว และลูกๆ ของพวกมัน ซึ่งจะว่ายน้ำไปพร้อมๆ กัน โดยมีระยะห่างไม่เกิน 1 กิโลเมตร โดยจะว่ายเหนือผิวน้ำ ด้วยความเร็วประมาณ 10-15 กิโลเมตร / ชั่วโมง แต่ความเป็นจริงแล้ว มันสามารถว่ายได้เร็วกว่า 50 กิโลเมตร / ชั่วโมง และดำน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร นอกจากความสามารถในการล่าแล้ว ปลาวาฬเพชรฆาต ยังส่งสัญญาณโซนาร์ใต้น้ำ เพื่อหาตำแหน่งที่อยู่ของวัตถุตรงหน้า และยังมีความสามารถ ในการสอดแนม โดยใช้การลอยตัวตั้งขึ้นตรง เหนือน้ำ เพื่อหาเหยื่อและสอดส่องอันตรายรอบตัว โดยจะใช้หางช่วยพยุงให้ตัวตั้งขึ้น หรือที่เรียกว่า "Spyhopping”



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น